ข้อกำหนดและเงื่อนไขการสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood
ข้อกำหนดและเงื่อนไขการสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood (“ข้อกำหนด”) ระหว่างบริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด (“แกร็บ หรือบริษัท”) ซึ่งสำนักงานตั้งอยู่ ณ 252 อาคาร เอสพีอี ชั้น 10 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 (ซึ่งต่อไปในข้อกำหนดฉบับนี้เรียกว่า “บริษัท”) และผู้ใช้บริการแอป Grab ประเภทร้านค้า (“ร้านค้า”) ซึ่งประสงค์จะเข้าร่วมโครงการตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องฉบับนี้
ข้อตกลงและเงื่อนไขโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood
- การสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood
- การสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood จะสำเร็จต่อเมื่อร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าวบนแอปถุงเงิน และกดยอมรับข้อกำหนดเงื่อนไขฉบับนี้บนแอป GrabMerchant โดยแกร็บจะนำร้านค้าขึ้นระบบหลังจากร้านค้ากดยอมรับข้อกำหนดฉบับนี้ และลงทะเบียนสำเร็จบนแอปถุงเงินภายใน 1 วัน
- เมื่อร้านค้าคลิกปุ่มยอมรับข้อกำหนด ให้ถือว่าร้านค้าได้อ่านและทำความเข้าใจข้อตกลงและเงื่อนไขของการสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood รวมถึงค่าบริการในอัตราพิเศษ ซึ่งร้านค้าจะได้รับสิทธิ์พิเศษดังกล่าวต่อเมื่อสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood สำเร็จเท่านั้น
- การได้รับเงินจากคำสั่งซื้อของโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood จากแอปถุงเงิน
- สำหรับคำสั่งซื้อจากโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood ร้านค้าจะได้รับค่าอาหารเต็มจำนวนโดยตรงจากรัฐบาลผ่านบัญชีที่ร้านค้าผูกไว้กับแอปถุงเงิน ภายใน 3 วัน (หรือภายในระยะเวลาอื่นที่รัฐบาลกำหนด)
- การหักค่าบริการจากคำสั่งซื้อของโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood
- ร้านค้าจะถูกหักค่าบริการต่อวันทันที โดยหักจากยอดขายสุทธิที่ลูกค้าจ่ายหลังจากคำสั่งซื้อจากโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood สำเร็จ ตลอดระยะเวลาโครงการ รายละเอียดดังต่อไปนี้
- สำหรับร้านค้าที่สมัครในวันที่ 3 และ 4 พฤศจิกายน 2568 เท่านั้น ร้านค้าจะถูกหักค่าบริการในอัตรา 7% เว้นแต่ร้านค้าที่ถูกหักค่าบริการสำหรับคำสั่่งซื้อปกติในอัตราที่ต่ำกว่า 7% ร้านค้าจะถูกหักค่าบริการตามอัตราค่าบริการของคำสั่งซื้อปกติบนแกร็บทันทีหลังคำสั่งซื้อสำเร็จ
- สำหรับร้านค้าที่สมัครตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ถึง 19 ธันวาคม 2568 จะถูกหักค่าบริการในอัตรา 9% เว้นแต่ร้านค้าที่ถูกหักค่าบริการสำหรับคำสั่งซื้อปกติในอัตราที่ต่ำกว่า 9% ร้านค้าจะถูกหักค่าบริการในอัตรา 9% ทันทีหลังคำสั่งซื้อสำเร็จ
- แกร็บขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการในกรณีที่รัฐบาลมีประกาศขยายระยะเวลาโครงการตามที่ระบุในข้อ 6 ของข้อกำหนดทั้งนี้ ค่าบริการดังกล่าวยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ซึ่งร้านค้าเป็นผู้รับผิดชอบ
- การค้างชำระค่าบริการ และ/หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ถ้าหากแกร็บไม่สามารถเรียกเก็บค่าบริการและ/หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) จากร้านค้าได้ ร้านค้าจะได้รับอีเมลล์แจ้งเตือนหากร้านค้ามียอดค้างชำระค่าบริการและ/หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) เกินที่แกร็บกำหนด ร้านค้าสามารถชำระค่าบริการและ/หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) ได้ผ่านบัญชีธนาคารของแกร็บตามข้อมูลในอีเมลแจ้งเตือน โดยอีเมลแจ้งเตือนจะหยุดส่งเมื่อร้านค้าชำระค่าบริการและ/หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) ครบถ้วนเต็มจำนวน
- หากร้านค้าค้างชำระค่าบริการและ/หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) เกินกว่า 50% ของยอดค่าบริการและ/หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) ที่แกร็บต้องเรียกเก็บภายใน 30 วัน ร้านค้าจะถูกปิดเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะชำระค่าบริการและ/หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) ครบถ้วนเต็มจำนวน
- การชดเชยค่าเสียหาย
- แกร็บมีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการพิจารณาชดเชยค่าเสียหายบางส่วน หรือเต็มจำนวนให้กับร้านค้าในรูปแบบของการให้โค้ดส่วนลด หรือ เงินสด แล้วแต่กรณีเงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
- ระยะเวลาโครงการ
- ระยะเวลาโครงการคือ 7 พฤศจิกายน 2568 ถึง 31 ธันวาคม 2568 หรือตามประกาศของรัฐบาล
- ทั้งนี้ (“ระยะเวลาโครงการ”) ระยะเวลาเริ่มต้นขึ้นของแต่ละร้านค้า อยู่กับระยะเวลาที่แต่ละร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood สำเร็จตามที่ระบุในข้อ 1 ของข้อกำหนด
- ความเป็นส่วนตัวและข้อมูลส่วนบุคคล
- โดยการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ร้านค้าตกลงและยินยอมให้ แกร็บ ทำการเก็บรวบรวม ประมวลผล และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ร้านค้าให้ไว้ในการลงทะเบียน เพื่อการตรวจสอบและยืนยันสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการ ดำเนินการทางด้านภาษี และดำเนินการต่าง ๆ ที่จำเป็นเกี่ยวกับการเข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ร้านค้าได้อ่านและเข้าใจประกาศความเป็นส่วนตัวของแกร็บ เรียบร้อยแล้ว
- ในกรณีทีร้านค้าได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามหรือบุคคลภายนอก ร้านค้ารับรองว่าโดยการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวนั้น (ก) บุคคลนั้นได้ให้ความยินยอมแก่ร้านค้าเพื่อทำการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเขา/เธอแก่แกร็บสำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยแกร็บเพื่อวัตถุประสงค์ของการเข้าร่วมโครงการนี้ และ (ข) ร้านค้าเป็นผู้มีอำนาจทำการดังกล่าว
แกร็บขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและข้อกำหนดโดยไม่ได้แจ้งให้ร้านค้าทราบล่วงหน้า
รายละเอียดและเงื่อนไขของสิทธิประโยชน์ ดันยอดโตสูงสุด 9 เด้ง
- ค่าบริการ (GP) 7%* ทุกคำสั่งซื้อใน โครงการ GrabFood x คนละครึ่งพลัส
- สำหรับ ร้านค้าที่สมัครเข้ามาในวันที่ 3 และ 4 พฤศจิกายน 2568 จะถูกหักค่าบริการ 7% ในคำสั่งซื้อจากโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood สำหรับร้านค้าที่สมัครตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ถึง 19 ธันวาคม 2568 จะถูกหักค่าบริการในอัตรา 9% ในคำสั่งซื้อจากโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood
- ร้านค้าเข้าร่วมฟรี! 2 แคมเปญ 1.ดันยอดขาย “แกร็บช่วยลด” มูลค่าส่วนลดสูงสุด 10,000 บาท* และ 2. ‘ร้านเล็กค่าส่งถูก’ ส่งฟรีทุกคำสั่งซื้อ* (ทั้ง 2 แคมเปญรวมเรียกว่า “แคมเปญ”) ผ่าน Saver สำหรับทุกร้านค้าที่ร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood ฟรีระยะเวลาสูงสุด 30 วัน โดยระยะเวลาเริ่มต้นขึ้นอยู่กับวันที่ร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood สำเร็จ และกดยอมรับเงื่อนไขในการเข้าแคมเปญแกร็บช่วยลด และ ร้านเล็กค่าส่งถูกเงื่อนไขในการเข้าร่วมของร้านค้า
- เมื่อร้านค้ากดยอมรับเงื่อนไขในการเข้าแคมเปญ“แกร็บช่วยลด” และ “ร้านเล็กค่าส่งถูก” บนแอป GrabMerchant และ ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood สำเร็จ
- กรณีที่ร้านค้าที่เข้าร่วมแคมเปญ แกร็บช่วยลด และ ร้านเล็กค่าส่งถูก หรืออย่างใดอย่างนึงอยู่แล้ว ร้านค้าจะได้การยกเว้นค่าธรรมเนียม ตลอดระยะเวลาแคมเปญตามที่ระบุด้านล่าง
- ระยะเวลาในการเข้าร่วมแคมเปญร้านค้าจะได้เข้าร่วมแคมเปญระยะเวลาสูงสุด 30 วัน ระยะเวลาเริ่มต้นขึ้นอยู่กับวันที่ร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood สำเร็จ และกดยอมรับเงื่อนไขในการเข้า แคมเปญแกร็บช่วยลด และ ร้านเล็กค่าส่งถูก ตามรายละเอียดด้านล่าง
- ทั้งนี้ ร้านค้าต้องสมัคร โครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood ให้สำเร็จและกดยอมรับเงื่อนไขในการเข้าแคมเปญ ระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ถึง 12 พฤศจิกายน 2568 ร้านค้าจึงจะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษที่ระบุในข้อนี้
- หากร้านค้าสมัคร โครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood สำเร็จ ระหว่างวันที่ 3 - 5 พฤศจิกายน 2568 แคมเปญจะเริ่มต้นในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 เวลา 00:00 น. - 6 ธันวาคม 2568 เวลา 23:00 น.
- หากร้านค้าสมัคร โครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood สำเร็จ ระหว่างวันที่ 6 - 12 พฤศจิกายน 2568 แคมเปญจะเริ่มต้นในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 เวลา 00:00 น. - 6 ธันวาคม 2568 เวลา 23:00 น.
- การยกเลิกแคมเปญก่อนครบระยะเวลาแคมเปญ 30 วัน
- ร้านค้าจะต้องอยู่ในแคมเปญเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง นับจากวันที่แคมเปญเริ่มต้น
(รายละเอียดตามที่ระบุในระยะเวลาการเข้าร่วมแคมเปญข้างต้น) จึงจะสามารถยกเลิกแคมเปญได้ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ร้านค้าสามารถยกเลิกการเข้าร่วมแคมเปญได้ตลอดเวลา โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการยกเลิก ยกตัวอย่างเช่น เมื่อร้านเข้าร่วมแคมเปญ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 เวลา 00:00 น. ร้านค้าจะสามารถกดออกจากแคมเปญได้หลังจากวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 เวลา 00:00 น. เป็นต้นไป- การยกเลิกแพ็กเกจแคมเปญจะมีผลทันที
- หากร้านค้ายกเลิกการเข้าร่วมแคมเปญ “แกร็บช่วยลด” และ/หรือแคมเปญ “ร้านเล็กค่าส่งถูก” ดังกล่าวแล้ว ร้านค้าจะไม่ได้รับสิทธิ์ยกเว้นค่าธรรมเนียมแคมเปญ “แกร็บช่วยลด” และแคมเปญ “ร้านเล็กค่าส่งถูก” ในระหว่างช่วงระยะเวลาในการเข้าร่วมแคมเปญอีก ร้านค้าจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าแคมเปญใดแคมเปญหนึ่ง หรือทั้ง 2 แคมเปญตามปกติ
- สำหรับแคมเปญ “ร้านเล็กค่าส่งถูก” หากร้านค้ากดเปลี่ยนระดับแคมเปญไปเป็นแคมเปญที่เสียค่าธรรมเนียม ในช่วงที่ได้สิทธิ์ยกเว้นค่าธรรมเนียมแคมเปญ ร้านค้าจะถูกคิดค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดในแคมเปญใหม่
- กรณีร้านค้าได้เข้าร่วมแคมเปญในช่วงระยะเวลา 7 พฤศจิกายน 2568 - 6 ธันวาคม 2568 ร้านค้าต้องทำการยกเลิกแคมเปญก่อน 6 ธันวาคม 2568 เวลา 23:00 น. (ระยะเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมสิ้นสุด)
- การเก็บค่าธรรมเนียมกรณีที่ร้านค้าไม่ได้ยกเลิกแคมเปญเมื่อพ้นระยะเวลา 30 วันของช่วงระยะเวลาการเข้าร่วมแคมเปญ
- หากร้านค้าไม่ได้ทำการยกเลิกแคมเปญก่อนครบระยะเวลาแคมเปญ 30 วันตามที่ระบุข้างต้น ร้านค้าจะถูกย้ายไปแคมเปญ “แกร็บช่วยลด” และแคมเปญ “ร้านเล็กค่าส่งถูก” แบบเก็บค่าธรรมเนียมโดยอัตโนมัติและร้านค้าจะต้องอยู่ในแคมเปญเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันเต็ม (โดยนับ 1 วัน = 24 ชั่วโมง) จึงจะสามารถยกเลิกแคมเปญได้ (ไม่มีค่าธรรมเนียมการยกเลิก) ยกตัวอย่างเช่น เมื่อร้านค้าเข้าร่วมแคมเปญ วันที่ 7 ธันวาคม 2568 เวลา 13:00 น. ร้านค้าจะสามารถกดออกจากแคมเปญได้หลังจากวันที่ 14 ธันวาคม 2568 เวลา 13:00 น. เป็นต้นไป
- ร้านค้าต้องชำระค่าธรรมเนียมการเข้าร่วมแคมเปญ แกร็บช่วยลด และ ร้านเล็กค่าส่งถูก ตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วมแคมเปญ โดยแกร็บจะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมแคมเปญภายตั้งแต่ วันที่ 7 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป) ซึ่งค่าธรรมเนียมประกอบไปด้วย
- ค่าธรรมเนียมของแคมเปญ “แกร็บช่วยลด” ในอัตราครึ่งนึง (50%) ของมูลค่าส่วนลดจากแคมเปญ (อัตราดังกล่าวไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ร้านค้าเป็นผู้รับผิดชอบภาษี
- ค่าธรรมเนียมแคมเปญ “ร้านเล็กค่าส่งถูก” ในอัตรา 1.5% ของยอดขายทั้งหมด (อัตราดังกล่าวไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ร้านค้าเป็นผู้รับผิดชอบภาษี
- วงเงินกู้สูงสุด 1,000,000 บาท* รับดอกเบี้ยคืนสูงสุด 300 บาท** เฉพาะร้านค้าที่ได้รับสิทธิ์สินเชื่อและเข้าร่วม โครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood และปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด**
- รายละเอียดสินเชื่อ
- สินเชื่อเงินสดทันใจ (สูงสุด 100,000 บาท) สำหรับผู้ที่สมัครและได้รับอนุมัติสินเชื่อวงเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ขึ้นไป และ ชำระคืนตรงเวลาตามกำหนด ไม่มียอดค้างชำระ ณ วันที่ทำเงินคืนเข้าบัญชีร้านค้า (รับเงินคืนภายในสิ้นเดือนถัดไปหลังจากกดรับสินเชื่อ)
- สินเชื่อเงินสดทันใจ พลัส (สูงสุด 1,000,000 บาท) สำหรับผู้ที่สมัครและได้รับอนุมัติสินเชื่อวงเงินตั้งแต่ 150,000 บาท ขึ้นไป และ ชำระคืนตรงเวลาตามกำหนด ไม่มียอดค้างชำระ ณ วันที่ทำเงินคืนเข้าบัญชีร้านค้า (รับเงินคืนภายในสิ้นเดือนถัดไปหลังจากกดรับสินเชื่อ)
- จำกัด 1 สิทธิ์ต่อร้านค้า
- กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 25% - 33% ต่อปี ขึ้นอยู่กับประเภทสินเชื่อ
- เงื่อนไขร้านค้าที่จะได้สิทธิพิเศษ รับดอกเบี้ยคืน สูงสุด 300 บาท
- ร้านค้าที่ลงทะเบียน โครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood สำเร็จ และหลังจากนั้นได้สมัครและได้รับอนุมัติสินเชื่อตามรายละเอียดสินเชื่อ พร้อมทั้ง ไม่มีสถานะค้างชำระ (no overdue) ในช่วงพิจารณา
- ประวัติการค้างชำระของสินเชื่ออื่น ก่อนหน้านี้จะไม่ถูกนำมาพิจารณา (ไม่เกี่ยวข้อง)
- ร้านค้าต้องสมัคร โครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood ให้สำเร็จ ระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ถึง 26 พฤศจิกายน 2568 ร้านค้าจึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่ระบุในข้อนี้
- หลักการคิดดอกเบี้ยและการรับเงินคืน (cashback)
- ร้านค้าจะถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยตามจริงก่อน
- แกร็บจะคืนเงินดอกเบี้ย (cashback) ตามดอกเบี้ยที่ลูกค้าจ่ายจริงใน “30 วันแรก” ของสัญญาเงินกู้งวดแรก
- วงเงินคืนสูงสุด 300 บาทต่อร้านค้า หากดอกเบี้ยที่จ่ายจริงเกิน 300 บาท ร้านค้าจะไม่ได้เงินคืนสำหรับดอกเบี้ยส่วนเกิน
- หากปิดยอดทั้งก้อนภายในเดือนแรก จะคิดดอกเบี้ยตามจำนวนวันจริงตั้งแต่วันรับเงินกู้ถึงวันปิดบัญชี (เช่น รับ 1 มิถุนายน 2568 ปิด 20 มิถุนายน 2568 คิด 20 วัน) และคืนตามดอกเบี้ยที่จ่ายจริง สูงสุด 300 บาท
- เงื่อนไขการชำระและคุณสมบัติการได้รับเงินคืน
- เดือนแรก ร้านค้าจะถูกเก็บดอกเบี้ยตามจริงก่อน
- หากเดือนแรกชำระตรงเวลา และเกินยอดขั้นต่ำที่กำหนด จะได้รับสิทธิ์รับเงินคืนดอกเบี้ยในรอบถัดไป
- เงินคืนจะเป็นไปตามดอกเบี้ยที่จ่ายจริงของรอบที่พิจารณา สูงสุด 300 บาท
- เงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่บริษัทกำหนดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
- การตัดรอบ/จ่ายคืน
- ระบบตัดชำระรายวัน (เช่น วันละ 300 บาท)
- Cashback จะดำเนินการเป็นรอบตาม cut-off date
- ตัวอย่าง:
- ร้านค้ารับสินเชื่อในเดือน พฤศจิกายน 2568
- ลูกค้าชำระครบภายใน 30 วัน (เช่น รับ 26 พฤศจิกายน 2568 ครบ 30 วันคือ 26 ธันวาคม 2568)
- บริษัทตรวจสิทธิ์และยอดเงินคืนในวันที่ 27 ธันวาคม 2568 และแจ้งผลทาง SMS
- เติมเงินคืน (cashback) เข้าบัญชีธนาคารที่ร้านค้าลงทะเบียนไว้ไม่เกินวันที่ 30 ธันวาคม 2568
- แหล่งอ้างอิงผลิตภัณฑ์
- แกร็บแจกส่วนลดพิเศษให้ลูกค้าสั่งเพิ่มสูงสุด 3,000 บาท ช่วยเพิ่มยอดให้ร้านค้า (สำหรับคำสั่งซื้อจากโครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood)
- เมื่อสั่งคำสั่งซื้อยอด1-100 บาท รับรีวอร์ดโค้ดส่วนลด 15% สูงสุด 50 บาท จำนวน 1 ใบ เมื่อสั่งขั้นต่ำ 100 บาทในคำสั่งซื้อถัดไป*
- เมื่อสั่งคำสั่งซื้อยอด101-200 บาท รับรีวอร์ดโค้ดส่วนลด 15% สูงสุด 50 บาท จำนวน 2 ใบ เมื่อสั่งขั้นต่ำ 100 บาท ในคำสั่งซื้อถัดไป*
- เมื่อสั่งคำสั่งซื้อยอด 201-300 บาทขึ้นไป รับรีวอร์ดโค้ดส่วนลด 15% สูงสุด 50 บาท จำนวน 3 ใบ เมื่อสั่งขั้นต่ำ 100 บาท ในคำสั่งซื้อถัดไป*
- เมื่อสั่งคำสั่งซื้อยอดมากกว่า 301 บาทขึ้นไป รับรีวอร์ดโค้ดส่วนลด 15% สูงสุด 50 บาท จำนวน 4 ใบ เมื่อสั่งขั้นต่ำ 100 บาท ในคำสั่งซื้อถัดไป*
- หมายเหตุ : ได้รีวอร์ดสูงสุด 3 ครั้งต่อวัน และ สูงสุด 15 ครั้งตลอดระยะเวลาแคมเปญ
- *รีวอร์ดไม่สามารถใช้ได้กับคำสั่งซื้อโครงการ GrabFood x คนละครึ่งพลัส
- *รีวอร์ดสามารถใช้ได้กับร้าน ‘โค้ดลดแรง’เท่านั้น และมีอายุ 60 วันหลังได้รับรีวอร์ด
- *จำกัดการใช้รีวอร์ด 1 ใบต่อคำสั่งซื้อ
- สื่อโฆษณาโปรโมทแคมเปญ มูลค่ารวมกว่า 200,000,000 บาท จัดเต็มด้านการตลาด รวมดาราดังโปรโมทแคมเปญ นำทีมโปรโมทโดย เบลล่า-ราณี, เจมีไนน์-นรวิชญ์, โฟร์ท-ณัฐวรรธน์, สกาย-วงศ์รวี, นานิ-หิรัญกฤษฎิ์, หลิงหลิง-ศิริลักษณ์ และ ออม-กรณ์นภัส
- ฟรี ค่าบริการ (GP) 0% Dine out สำหรับทุกร้านค้าใหม่ ระยะเวลา 30 วัน
- เงื่อนไขในการได้รับ ค่าบริการ (GP) 0% สำหรับบริการ Dine Out
- ร้านค้าต้องสมัคร โครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood ให้สำเร็จ ระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ถึง 26 พฤศจิกายน 2568 ร้านค้าจึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่ระบุในข้อนี้
- แกร็บจะส่งข้อความแจ้งไปยังร้านค้าว่าได้รับสิทธิ์ค่าบริการ Dine Out (GP) 0% ภายใน 14 วันหลังจากร้านค้าสมัครเข้าร่วม โครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood สำเร็จ ์ โดยเมื่อร้านค้าได้รับสิทธิ์ ค่าบริการ Dine Out (GP) 0% แล้ว โปรดรอข้อความยืนยันก่อนกดยืนยันเพื่อรับสิทธิ์ดังกล่าว หากร้านค้ากดยืนยันเพื่อรับสิทธิ์ก่อนที่จะได้รับข้อความยืนยัน ร้านค้าจะไม่ได้รับสิทธิ์ ค่าบริการ (GP) 0%
- ต้องเป็นร้านค้าใหม่ที่ไม่เคยเข้าร่วม Dine Out กับแกร็บมาก่อน
- ร้านค้าจะได้รับสิทธิ์ค่าบริการ Dine Out (GP) 0% เป็นเวลา 30 วัน โดยนับจากวันที่ร้านค้ากดเข้าร่วม Dine Out และภายหลังจาก 30 วันร้านค้าจะเสียค่าธรรมเนียม 5% ของยอดขายผ่าน Dine Out
- ช่องทางการสมัคร
- ร้านค้าจะสามารถสมัครด้วยตัวเองผ่านแอป GrabMerchant โดยทำตามขั้นตอนข้างล่าง
- เลือก ‘เพิ่มยอดขาย’ บนแอป GrabMerchant
- เลือก ‘ส่วนลดเมื่อกินที่ร้าน’
- กำหนดส่วนลดและวันเริ่มต้น
- อ่านรายละเอียดและกด ‘สร้างแคมเปญ’
- วิธีการยกเลิกบริการ Dine Out
- ร้านค้าจะสามารถยกเลิกด้วยตัวเองผ่านแอป GrabMerchant โดยทำตามขั้นตอนข้างล่าง
- เลือก ‘เพิ่มยอดขาย’ บนแอปGrabMerchant
- เลือก ‘ส่วนลดเมื่อกินที่ร้าน’
- เลือก ‘ยกเลิกแคมเปญ’ ร้านค้าจะยกเลิกการเข้าร่วมได้ทันที
- ฟรี สื่อตกแต่งร้าน ให้ร้านค้าเด่นสะดุดตา สำหรับ 20,000 ร้านค้าแรกที่เข้าร่วม โครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood สำเร็จ
- คุณสมบัติร้านค้าที่จะได้รับ สื่อตกแต่งร้านค้า
- ร้านค้าที่ได้ทำการสมัครผู้เข้าเข้าร่วม โครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood โดยเป็นผู้สมัคร 20,000 ร้านค้าแรก โดยอันดับของร้านค้านับจากเวลาที่ร้านค้าลงทะเบียนบนแอปถุงเงินสำเร็จ
- สื่อตกแต่งร้านค้าประกอบไปด้วย
- ธงราวและสติกเกอร์อย่างละ 1 ชิ้น โดยร้านค้าจะได้รับ สื่อตกแต่งร้านค้าภายใน 14 วัน ภายหลังจากการลงทะเบียน โครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood เสร็จสมบูรณ์
- ฟรี เครติดโฆษณาภายในแอป GrabMerchant มูลค่า 400 บาท สำหรับทุกร้านค้าที่กดยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการสมัครเข้าร่วม โครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood บนแอป GrabMerchant
- สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ
- ร้านค้าจะได้รับ เครติดโฆษณาภายในแอป GrabMerchant มูลค่า 400 บาท เครดิตจะถูกส่งไปยังบัญชีของร้านค้าในแอป GrabMerchant ภายใน 3 วันทำการหลังจากร้านค้าได้ยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการสมัครเข้าร่วม โครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood บนแอป GrabMerchant
- ร้านค้าต้องกดยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการสมัครเข้าร่วม โครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood บนแอป GrabMerchant ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ถึง 12 พฤศจิกายน 2568 ร้านค้าจึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่ระบุในข้อนี้
- ส่วนลดค่าบริการ SilomPOS ครึ่งราคา ระยะเวลา 1 ปี
- คุณสมบัติของร้านค้า
- ร้านค้าต้องสมัคร โครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood ให้สำเร็จ ระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ถึง 26 พฤศจิกายน 2568 ร้านค้าจึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่ระบุใน ข้อนี้
- ต้องเปิดใช้งานระบบ SilomPOS ภายใน 31 ธันวาคม 2568
- ระยะเวลาและแพ็กเกจโปรโมชั่น
- ชำระค่าสมาชิกรายปี เป็นระยะเวลา 1 ปี เป็นไปตามเงื่อนไขที่ผู้ให้บริการกำหนด
- ราคาสมาชิกรายปีและการชำระเงิน
- แพ็คเกจ STARTER+ ลด 50% เหลือเพียง 2,450 บาท จากราคา 4,900 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- แพ็คเกจ SMART+ ลด 50% เหลือเพียง 4,950 บาท จากราคา 9,900 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- แพ็คเกจ PRO ลด 50% เหลือเพียง 9,950 บาท จากราคา 19,900 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- แพ็คเกจ PRO+ ลด 50% เหลือเพียง 14,950 บาท จากราคา 29,900 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- วิธีการสมัคร
- ร้านค้าจะได้รับข้อความที่ส่งไปยัง แอป GrabMerchant พร้อมลิ้งค์และขั้นตอนในการสมัคร และรับสิทธิ์ค่าสมาชิกครึ่งราคาเป็นเวลา 1 ปี ภายใน 14 วัน ภายหลังจากลงทะเบียน โครงการคนละครึ่ง พลัส ร่วมกับ GrabFood เสร็จสมบูรณ์
- สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ
- บริการลงรายการอาหารเข้าระบบให้ฟรี
- เชื่อมต่อร้านค้า GrabFood กับระบบ SilomPOS ให้ฟรี
- พร้อมใช้งานแอปพลิเคชัน Silom Merchant เพื่อจัดการหน้าร้านค้าผ่านมือถือ รองรับ Android (Google Play Store) และ iOS (App Store)
- เงื่อนไขเพิ่มเติม
- ร้านค้าเป็นผู้รับผิดชอบภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ใช้สิทธิ์ได้เฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดข้างต้นหากร้านค้ายกเลิกก่อนระะยเวลา 1 ปีจะไม่ได้รับค่าบริการส่วนต่างคืน
- ในกรณีที่ครบกำหนด 1 ปี ทางทีมงาน SilomPOS จะติดต่อเข้าไปหาร้านค้าเพื่อต่ออายุ หากไม่ต่อสัญญาร้านค้าจะไม่สามารถใช้งาน POS ต่อได้
- หากร้านค้าต้องการยกเลิกสามารถติดต่อกับทาง SilomPOS ได้ที่เบอร์ 02-114-3042
ข้อตกลงอื่นๆ
10. สิทธิ์ของบริษัท
- บริษัทมีสิทธิ์ในการระงับ หรือยกเลิกการให้สิทธิ์หรือรางวัลใด ๆ ในกิจกรรมนี้แก่บุคคลที่กระทำการใด ๆ โดยทุจริต หรือผิดกฏหมาย หรือไม่ปฏิบัติตามที่ระบุไว้ในข้อกำหนดและเงื่อนไขในกิจกรรมนี้
บริษัทมีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการเพิกถอน เปลี่ยนแปลง และ/หรือ แก้ไข ข้อกำหนดและเงื่อนไขของกิจกรรมนี้ (รวมถึงรายละเอียดของรางวัล) ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนได้ตลอดเวลา โดยไม่จำเป็นที่จะต้องแจ้งให้ร้านค้าทราบล่วงหน้า ร้านค้าตกลงที่จะผูกพันกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
บริษัทไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมใดๆ การสูญเสีย การได้รับบาดเจ็บ หรือความผิดหวังที่เกิดขึ้นจากการเข้าร่วมกิจกรรม หรือการรับมอบของรางวัล
ร้านค้าตกลงและยินยอมที่จะให้บริษัท และบริษัทในเครือของบริษัทใช้รูปภาพ ภาพถ่ายของคนขับผู้มีสิทธิ์ได้รับรางวัล รวมถึงชื่อ และคำตอบ (ถ้ามี) สำหรับการประชาสัมพันธ์ (ในรูปแบบต่างๆ) การโฆษณา และการทำการตลาดได้ตลอดเวลาโดยไม่มีค่าตอบแทนเพิ่มเติม
บริษัท จะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหาย หรือการถูกโจรกรรมข้อมูลของร้านค้า อันเนื่องมาจากปัญหาของระบบ และ/หรือบุคคลภายนอก รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะการกระทำความผิดของบุคคลที่สาม
11. กรณีมีข้อพิพาทใดๆ เกี่ยวกับกิจกรรมนี้
การพิจารณาและคำตัดสินของบริษัท ไม่ว่ากรณีใด ๆ อันเกี่ยวข้องกับกิจกรรมนี้ให้ถือเป็นที่สิ้นสุด และไม่อาจโต้แย้งได้เด็ดขาด สิ้นสุด และเป็นที่ยุติ
12. สอบถามข้อมูล และตรวจสอบเงื่อนไขเพิ่มเติม
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ คลิก
สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมแพลตฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์ (Food Delivery platform) เป็นครั้งแรก และเข้าร่วมโครงการ GrabFood x คนละครึ่งพลัส ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ถึง 19 ธันวาคม 2568 มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส รายละเอียด ดังนี้
หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอมสำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาความรู้ ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส
- สาระสำคัญของโครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้า ที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส (โครงการฯ)
- ช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการฯ คือ ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2568
- คุณสมบัติของผู้ประกอบการที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการฯ
- เป็นผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส สำเร็จ อย่างน้อยในวันก่อนหน้า (T-1) ของวันที่ตกลงให้ความยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ (T) ตาม (2) ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 โดยต้องไม่เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะในโครงการคนละครึ่ง พลัส
- อ่าน รับทราบ และตกลงให้ความยินยอมในหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอม สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับ ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส (หลักเกณฑ์ฯ)
- ไม่เป็นผู้ที่ถูกสำนักงานเศรษฐกิจการคลังระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ ได้แก่โครงการคนละครึ่ง โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 โครงการ คนละครึ่ง ระยะที่ 4 โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 และ โครงการคนละครึ่ง พลัส
- การได้รับสิทธิประโยชน์
- ผู้ประกอบการที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องดำเนินการ Upskill หรือ Reskill ตามหลักเกณฑ์ฯ อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ที่เหมาะสมหรือสอดคล้องกับลักษณะการประกอบการ หรือเพื่อเพิ่มองค์ความรู้หรือทักษะของผู้ประกอบการสำเร็จ ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 โดยใช้เลขประจำตัวประชาชน (กรณีบุคคลธรรมดา) หรือเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (กรณีนิติบุคคล) ที่ตรงกับการลงทะเบียนร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส
- เข้าร่วมและผ่านเกณฑ์การอบรมออนไลน์ของธนาคารออมสินในหลักสูตรที่ธนาคารออมสินคัดเลือกแล้วว่า มีความเหมาะสมกับผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส โดยผู้ประกอบการจะต้องผ่านการเรียนหลักสูตรตามที่ธนาคารออมสินกำหนด โดยเข้าเรียนครบระยะเวลา หลักสูตรด้วยตนเอง และทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของแต่ละหลักสูตร โดยมีผลคะแนนการทดสอบหลังเรียนผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 และมากกว่าผลคะแนนการทดสอบก่อนเรียน จึงจะถือว่า ได้ดำเนินการ Upskill หรือ Reskill สำเร็จ ทั้งนี้ กรณีมีผลคะแนนการทดสอบก่อนเรียนเต็ม ร้อยละ 100 ถือว่าดำเนินการ Upskill หรือ Reskill ไม่สำเร็จ โดยสามารถเลือก Upskill หรือ Reskill ตามที่กำหนดในข้ออื่นได้
- เข้าร่วมและผ่านเกณฑ์การอบรมออนไลน์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยเรียนผ่านระบบ อบรมออนไลน์ DBD Academy (e-Learning) ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ในหลักสูตร ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าคัดเลือกแล้วว่า มีความเหมาะสมกับผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ทั้งนี้ผู้ประกอบการจะต้องเลือกเรียนอย่างน้อย 1 หลักสูตร โดยเข้าเรียนครบระยะเวลาหลักสูตรด้วยตนเอง และทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน โดยมีผลคะแนนทดสอบหลังเรียนผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 70 และมากกว่าผลคะแนนการทดสอบก่อนเรียน จึงจะถือว่า ได้ดำเนินการ Upskill หรือReskill สำเร็จ ทั้งนี้ กรณีมีผลคะแนนการทดสอบก่อนเรียนเต็มร้อยละ 100 ถือว่า ดำเนินการ Upskill หรือ Reskill ไม่สำเร็จ โดยสามารถเลือก Upskill หรือ Reskill ตามที่กำหนดในข้ออื่นได้
- ทั้งนี้ การดำเนินการทำแบบทดสอบก่อนเรียนตามข้อ (3.1.1) และ (3.1.2) จะสามารถดำเนินการ ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น และจะยึดผลคะแนนการทดสอบก่อนเรียนดังกล่าวเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา (3.1.3) เฉพาะกรณีที่เป็นผู้ประกอบการประเภทร้านค้าอาหารและ/หรือเครื่องดื่มในโครงการ คนละครึ่ง พลัส จะต้องมีลักษณะและดำเนินการดังต่อไปนี้ทั้งหมด จึงจะถือว่าได้ดำเนินการ Upskill หรือ Reskill สำเร็จ
- เข้าร่วมเป็นร้านค้าบนระบบของผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหารที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วม โครงการคนละครึ่ง พลัส (ผู้ให้บริการ Food Delivery Platform) รายใดรายหนึ่ง
- เชื่อมต่อระบบในโครงการคนละครึ่ง พลัส กับผู้ให้บริการ Food Delivery Platform ที่ได้เข้าร่วมตาม (3.1.3) ในแอปถุงเงิน สำเร็จ และจะต้องมีธุรกรรมการซื้อขายอาหารและ/หรือ เครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่งพลัสที่ผ่านระบบของผู้ให้บริการ Food Delivery Platform สำเร็จ อย่างน้อย 5 รายการ ภายในวันที่ 19 ธันวาคม 2568 จึงจะถือว่าได้ดำเนินการ Upskill หรือ Reskill สำเร็จ
- ไม่สมัครเข้าร่วมเป็นร้านค้าของผู้ให้บริการ Food Delivery Platform ที่ได้เข้าร่วม ตาม (3.1.3) ก่อนวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ตามฐานข้อมูล ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568
- ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของการ Upskill หรือ Reskill ตาม (3.1.1) (3.1.2) และ (3.1.3) จะเป็นไปตามที่ธนาคารออมสิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือผู้ให้บริการ Food Delivery Platform กำหนด ซึ่งอาจส่งผลให้การ Upskill หรือ Reskill ตาม (3.1.1) (3.1.2) และ (3.1.3) มีขั้นตอนและระยะเวลาการดำเนินการ ที่แตกต่างกัน
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจะตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ประกอบการที่ธนาคารออมสิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือผู้ให้บริการ Food Delivery Platform ได้แจ้งว่า ดำเนินการ Upskill หรือ Reskill ตาม (3.1) สำเร็จ และประมวลผลเพื่อให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และได้ดำเนินการ Upskill หรือ Reskill สำเร็จ จำนวนไม่เกิน 400,000 สิทธิ์ โดยจะให้สิทธิ์ แก่ผู้ประกอบการตามลำดับวันและเวลาที่ธนาคารออมสิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือผู้ให้บริการ Food Delivery Platform ได้แจ้งว่าดำเนินการ Upskill หรือ Reskill สำเร็จ ซึ่งจะประกาศผลผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิ์ในวันที่ 23 ธันวาคม 2568 ผ่านข้อความบนแอปถุงเงิน และข้อความสั้น (Short Message Service: SMS)
- ทั้งนี้ ในกรณีที่จำนวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและดำเนินการ Upskill หรือ Reskill สำเร็จในช่วงวันและเวลาเดียวกันเกินกว่าจำนวนสิทธิประโยชน์ที่เหลืออยู่ และไม่สามารถจัดลำดับได้ โดยชัดเจน ให้ถือว่า ผู้ประกอบการที่ดำเนินการสำเร็จในช่วงวันและเวลาดังกล่าวทั้งหมดไม่มีสิทธิ์ได้รับ สิทธิประโยชน์และสำนักงานเศรษฐกิจการคลังจะให้สิทธิประโยชน์เฉพาะผู้ประกอบการที่ดำเนินการสำเร็จก่อนเวลานั้น
- ผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและได้ดำเนินการ Upskill หรือ Reskill สำเร็จ ไม่เกิน 400,000 ลำดับแรกตาม (3.2) จะได้รับสิทธิประโยชน์เป็นเงินสนับสนุนจากภาครัฐ ร้อยละ 20 ของยอดซื้อขายสินค้าและ/หรือบริการที่เกิดขึ้นจากโครงการคนละครึ่ง พลัส เฉพาะส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่าย นับแต่วันที่ผู้ประกอบการได้ดำเนินการ Upskill หรือ Reskill สำเร็จ จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อผู้ประกอบการ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลังจะโอนเงินดังกล่าวให้แก่ ผู้ประกอบการผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) ที่ผูกกับแอปถุงเงิน ในวันที่ 25 ธันวาคม 2568
- สำหรับกรณีโอนเงินไม่สำเร็จ จะดำเนินการติดตามเพื่อโอนเงิน (Retry) ให้แก่ผู้ประกอบการ ในวันที่ 30 มกราคม 2569 และในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2569 โดยเมื่อพ้นกำหนดดังกล่าว รัฐจะไม่โอนเงิน ให้แก่ผู้ประกอบการ และถือว่าผู้ประกอบการไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ
- หลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ
- ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามสาระสำคัญของโครงการฯ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ และต้องมีคุณสมบัติตามที่โครงการฯ กำหนด ตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ
- ผู้ประกอบการเป็นผู้รับผิดชอบความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลที่ได้ให้ไว้แก่ ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารออมสิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้ให้บริการ Food Delivery Platform
- ผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลธรรมดา หรือในกรณีที่เป็นนิติบุคคลโดยผู้มีอำนาจจัดการนิติบุคคล จะต้องดำเนินการ Upskill หรือ Reskill ตามข้อ (3.1.3) ด้วยตนเอง
- ห้ามผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ กระทำการใด ๆ ที่สร้างความเข้าใจผิดต่อมาตรการและ/หรือ โครงการของรัฐ หรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินโครงการฯ หรือมาตรการ/โครงการใด ๆ ของรัฐ
- ในกรณีที่ผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนสาระสำคัญของโครงการฯ หลักเกณฑ์หรือเงื่อนไข ของโครงการฯ หรือขาดคุณสมบัติของผู้ประกอบการที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
- หากตรวจพบกรณีดังกล่าวก่อนที่จะดำเนินการโอนเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจะตัดสิทธิ์ ในการได้รับสิทธิประโยชน์ตามโครงการฯ ของผู้ประกอบการ และจะระงับคำสั่งการโอนเงินทันที
- หากตรวจพบกรณีดังกล่าวหลังจากที่ดำเนินการโอนเงินแล้ว สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง จะเพิกถอนสิทธิ์ในการได้รับสิทธิประโยชน์ตามโครงการฯ ของผู้ประกอบการ และผู้ประกอบการจะต้องคืนเงิน สนับสนุนทั้งหมดที่ได้รับโอนจากโครงการฯ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งถึงการเพิกถอนสิทธิ์เข้าร่วม โครงการฯ
- ในกรณีที่มีการจ่ายเงินตามโครงการฯ ให้แก่ผู้ไม่มีสิทธิ์ได้รับอันเนื่องมาจากความผิดพลาด ในการส่งข้อมูลหรือส่งข้อมูลเท็จ ผู้ประกอบการจะต้องจ่ายเงินสนับสนุนทั้งหมดที่ได้รับจากโครงการฯ คืนให้แก่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งถึงการจ่ายเงินผิดพลาดดังกล่าว โดยจ่ายเงินคืนผ่านช่องทางที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังกำหนด
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลังอาจเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมกับผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืน สาระสำคัญของโครงการฯ หลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการฯ หรือขาดคุณสมบัติของผู้ประกอบการ ที่เข้าร่วมโครงการฯ นอกเหนือจากการเรียกเงินคืนตามข้อ (2.5) (ถ้ามี) ผู้ประกอบการจะต้องจ่ายค่าเสียหายคืนให้แก่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง โดยจ่ายเงินคืนผ่านช่องทางที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังกำหนด
- กระบวนการพิจารณาและดำเนินการตามข้อ (2.5 - 2.7) ให้เป็นไปตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กำหนด
- ข้อความตกลงยินยอมของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ
* “ข้าพเจ้า” หมายถึง ผู้ประกอบการ *
ข้าพเจ้าตกลงให้ความยินยอม ดังต่อไปนี้ โดยครบถ้วนทุกข้อ
3.1 ให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า ได้ทุกเมื่อ ตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ เพื่อประโยชน์ในการยืนยันตัวตนหรือการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อรับสิทธิ์ ตามโครงการฯ และ/หรือเพื่อการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ
ข้าพเจ้ารับทราบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าที่ได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยนั้น มีรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทและรายการข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
ลำดับ
| ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล | รายการข้อมูลส่วนบุคคล |
1. | ข้อมูลส่วนตัวทั่วไป | 1. ข้อมูลในโครงการฯ ได้แก่ • คำนำหน้าชื่อ ชื่อ ชื่อกลาง นามสกุล • เลขประจำตัวประชาชน 2. ข้อมูลในโครงการคนละครึ่ง พลัส • บัญชีธนาคารกรุงไทยฯ |
2. | ข้อมูลติดต่อ | ข้อมูลในโครงการคนละครึ่ง พลัส ได้แก่ • หมายเลขโทรศัพท์ • ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ |
3. | ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการตรวจสอบ สิทธิ์ | 1. ข้อมูลในโครงการฯ ได้แก่ • ข้อมูลการเข้าร่วมและผ่านเกณฑ์การอบรม ออนไลน์ของธนาคารออมสินและกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 2. ข้อมูลโครงการคนละครึ่ง พลัส ได้แก่ • เลขประจำตัวประชาชน • สถานะความเป็นผู้ประกอบการของโครงการคนละครึ่ง พลัส • ข้อมูลธุรกรรมที่เกิดขึ้นในโครงการคนละครึ่ง พลัส ผ่านผู้ให้บริการ Food Delivery Platform |
4. | ข้อมูลทางเทคนิค | • คุกกี้(Cookies ID) • ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์(Audit Log) • การใช้งานเว็บไซต์ • IP Address |
5. | ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ และภารกิจของโครงการฯ | ข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและจำเป็น ต่อการดำเนินโครงการฯ |
ข้าพเจ้ารับทราบว่าประเภทและรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ให้ความยินยอมให้มีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยนั้น จะถูกใช้เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
วัตถุประสงค์ | ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล |
เพื่อใช้ในการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ประกอบการ ที่เข้าร่วมโครงการฯ | • ข้อมูลส่วนตัวทั่วไป • ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการตรวจสอบสิทธิ์ • ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และภารกิจ ของโครงการฯ |
เพื่อการตรวจสอบ วินิจฉัย ร้องทุกข์ กล่าวโทษ การตัดสิทธิ์การเพิกถอนสิทธิ์ การเรียกเงินคืน การชดใช้ความเสียหายและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเข้าข่ายการขาดคุณสมบัติหรือการผิดหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขของโครงการฯ | • ข้อมูลส่วนตัวทั่วไป • ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการตรวจสอบสิทธิ์ • ข้อมูลติดต่อ • ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และภารกิจของโครงการฯ |
เพื่อรับเรื่องร้องเรียน | • ข้อมูลส่วนตัวทั่วไป • ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการตรวจสอบสิทธิ์ • ข้อมูลติดต่อ • ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และภารกิจ ของโครงการฯ |
เพื่อการใช้สิทธิ์ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล | • ข้อมูลส่วนตัวทั่วไป • ข้อมูลติดต่อ • ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และภารกิจ ของโครงการฯ |
เพื่อประโยชน์ในการดำเนินมาตรการหรือนโยบายอื่นของรัฐ | • ข้อมูลส่วนตัวทั่วไป • ข้อมูลติดต่อ • ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการตรวจสอบสิทธิ์ • ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และภารกิจ ของโครงการฯ |
เพื่อรับแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล | • ข้อมูลส่วนตัวทั่วไป • ข้อมูลติดต่อ • ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และภารกิจ ของโครงการฯ |
3.2 ให้ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารออมสิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผู้ให้บริการ Food Delivery Platform และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าตามคำสั่ง หรือในนามของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้ทุกเมื่อตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ เพื่อการตรวจสอบ ข้อมูล และ/หรือเพื่อการยืนยันตัวตน หรือเพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อรับสิทธิตามโครงการฯ และ/หรือ เพื่อการบริหารจัดการโครงการฯ
3.3 ให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า เพื่อประโยชน์ในการดำเนินมาตรการอื่นของรัฐหรือเพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินในอนาคต
- ความยินยอมของข้าพเจ้าข้างต้นให้มีผลไปตลอดช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการฯ เว้นแต่ การให้ความยินยอมในกรณีดังต่อไปนี้ ข้าพเจ้ายินยอมให้มีผลต่อไป แม้ว่าโครงการฯ จะสิ้นสุดลงแล้ว
- ความยินยอมตามข้อ (3.1 ถึง 3.2} ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบการไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืน สาระสำคัญของโครงการฯ หลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการฯ หรือขาดคุณสมบัติของผู้ประกอบการ ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการฯ
- ความยินยอมตามข้อ (3.3) ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินมาตรการอื่นของรัฐหรือเพื่อประโยชน์ ในการบริหารราชการแผ่นดินในอนาคต
- ข้าพเจ้ารับทราบว่า ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ข้าพเจ้ามีสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังต่อไปนี้ (ก) สิทธิ์เพิกถอนความยินยอมตามข้อ (3.1 - 3.3) (ข) สิทธิ์ขอเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (ค) สิทธิ์ขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (ง) สิทธิ์ขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวตนผู้เป็นเจ้าของ (จ) มีสิทธิ์ขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (ฉ) สิทธิ์ขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด (ช) สิทธิ์ร้องเรียนกรณีที่มีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยการใช้สิทธิ์ดังกล่าว จะต้องแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิเป็นหนังสือมายังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
- ข้าพเจ้ารับทราบว่า ในกรณีที่ข้าพเจ้าใช้สิทธิ์เพิกถอนความยินยอมตามข้อ (3.1 - 3.3) หรือใช้สิทธิ์ ขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าไม่สามารถระบุตัวตน ผู้เป็นเจ้าของ ข้าพเจ้าจะถูกตัดสิทธิ์หรือเพิกถอนสิทธิ์ในโครงการฯ แล้วแต่กรณี โดยในกรณีที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์ ภายหลังจากที่ได้รับสิทธิ์ประโยชน์ของโครงการฯ แล้ว ข้าพเจ้าจะต้องคืนเงินที่รับจากโครงการฯ ทั้งหมดให้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือเรียกเงินคืนจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โดยกระบวนการพิจารณาและดำเนินการให้เป็นไปตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังกำหนด
- ทั้งนี้ ให้ถือว่าคู่ฉบับและบรรดาสำเนา ภาพถ่าย ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือโทรสารที่ทำขึ้นจากหนังสือ ให้ความยินยอมฉบับนี้ เป็นหลักฐานในการให้ความยินยอมของข้าพเจ้า
- ข้าพเจ้าได้อ่าน รับทราบ และตกลงยินยอมตามหนังสือให้ความยินยอมฉบับนี้
- ข้าพเจ้าขอรับรองว่าจะเป็นผู้ดำเนินการ Upskill หรือ Reskill ตามข้อ (3.1.3) (1) ด้วยตนเอง
- ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ถูกต้องตามความเป็นจริง ทุกประการ และรับทราบว่าการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จเป็นการกระทำความผิด ตามกฎหมาย หากข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตัดสิทธิ์หรือเพิกถอนสิทธิ์ในโครงการฯ หรือยินยอมคืนเงินที่ได้รับจากโครงการฯ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ไม่เป็นการตัดสิทธิ์ของรัฐในการดำเนินการตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 0 2273 9020